12 December 2009

การลงทุนโดยใช้เงินกู้

การลงทุนในโครงการระบบโครงสร้างพื้นฐานนั้น ทำได้หลายรูปแบบ ทั้งใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน เงินกู้ หรือให้ภาคเอกชนมาร่วมลงทุน

ในส่วนของเงินกู้นั้นส่วนใหญ่จะใช้การกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาต่าๆ เช่น World Bank หรือ Asian Development Bank หรือค่ายญี่ปุ่นอย่าง JICA (เมื่อก่อนเป็น OECF ก่อนเปลี่ยนเป็น JBIC และในที่สุดมีการปรับโครงสร้างใหม่มาร่วมกับ JICA)

ทั้งหมดนี้เรื่องที่น่าสนใจคือ การใช้เงินกู้มาลงทุนนั้นจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าโครงการให้ดี โดยหลายๆโครงการที่ใช้เงินกู้นั้นหน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการนั้นมิได้ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าเท่าที่ควร ทั้งนี้อาจจะเพราะคิดว่าเงินกู้นั้นได้มาง่าย ดอกเบี้ยถูก เหมือนเงินที่ได้เปล่า แถมหน่วยงานมิได้เป็นผู้รับภาระ แต่รัฐบาลเป็นผู้รับภาระในการใช้คืน

เปรียบเหมือนกับครอบครัวที่ลำพังเงินเดือนอาจจะพออยู่พอกิน แต่หากจะมาลงทุนทำอะไรอาจจะไม่พอ ก็จำเป็นที่จะต้องมีการกู้มาลงทุน เงินกู้เหล่านี้จะกลายเป็นภาระให้กับครอบครัวในอนาคต ซึ่งหากการลงทุนนั้นๆไม่เกิดดอกไม่เกิดผล ก็จะทำให้ภาระเงินกู้ที่ได้กู้ไปแล้วกลับมารุมเร้าครอบครัวในอนาคตได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ยิ่งแย่ไปกว่านั้น บางหน่วยงาน ไม่ได้กู้มาลงทุน แต่กู้มากินมาใช้ มาจ่ายเงินเดือน จ่ายสวัสดิการ หรือแม้กระทั่งแอบมาจ่ายโบนัส อย่างนี้ก็เหมือนกับครอบครัวที่กู้เงินมาเพื่อใช้จ่ายไปวันๆ ถึงเวลาคืน เงินต้นก็ไม่มีจะคืน ดอกที่พอกพูนก็ไม่มีจะจ่าย ต้องหมุนเวียน หยิบโน่น มาจ่ายนี่ กู้ใหม่เพื่อใช้หนี้เก่า ภาระหนี้ก็จะเพิ่มพูดไปเรื่อยๆ จนครอบครัวล้มละลาย

นอกจากนี้ยังไม่พอ บางครั้งประเทศเราอาจจะมิได้มีความต้องการโครงการลงทุนอะไร แต่ประเทศเจ้าของแหล่งเงินกู้ก็อยากจะให้กู้ อาจจะด้วยเหตุผลของการที่มีสภาพคล่องล้นในประเทศ หรืออาจจะต้องการสร้างอิทธิพลทางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่สร้าอิทธิพลทางการเมือง ก็พยายามยัดเยียดโครงการต่างๆมาให้ พร้อมกับ package เงินกู้ เช่น

-เริ่มแรกก็จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาทำทีจะให้ความช่วยเหลือด้านบุคลากร หรือบางทีเรียกว่า Technical Assistance แต่ที่แท้ก็อาจจะเป็นผู้ที่มาปั้นโปรเจคทิ้งไว้
-จากนั้นก็ส่งผู้เชี่ยวชาญชุดต่อมาเพื่อศึกษาโครงการ ทำรายละเอียด ออกแบบ ฯลฯ
-เมื่อมีโครงการ มีเอกสาร มีแบบ พร้อมแล้ว ก็จะเข้ามาให้เงินกู้เพื่อดำเนินโครงการนั้น
-เมื่อกู้แล้ว ก็อาจจะมีเงื่อนไขต่างๆนาๆ รวมถึงเงื่อนไขการใช้ทีมงาน และเทคโนโลยีจากประเทศเจ้าของเงินกู้ ที่เรียกกันว่า Tied Financing หรือการให้เงินกู้แบบมีเงื่อนไขผูกพัน
-เมื่อโครงการแล้วเสร็จ ประเทศก็จะมีหนี้มาหนึ่งก้อน ซึ่งหากโครงการมีประโยชน์จริงก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่หากโครงการไม่มีประโยชน์ เช่น กลายเป็นถนน (ไม่ใช่คน) เดิน ต่างๆนานา
- สุดท้าย ประเทศเจ้าของแหล่งเงินกู้ก็จะกุมอำนาจทางเศรษฐกิจกับประเทศผู้กู้

จริงๆก็อาจจะไม่ควรมองโลกในแง่ร้ายเกินไป แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็เกิดขึ้นเป็นประจำ มีให้เห็นตำตาอยู่ทั่วไป

สรุปก็คือ การใช้เงินกู้เพื่อลงทุนในโครงการลงทุนต่างๆนั้น รัฐควรจะพิจารณาอย่างรอบคอบ ถี่ถ้วนถึงประโยชน์ที่จะได้รับ อย่ามุ่งหวังแต่เพียงใช้เงินกู้ให้หมด เพราะเห็นเป็นเงินที่ได้มาง่าย

ใครว่าใช้เงินเป็นเรื่องง่ายครับ จริงๆ ใช้เงิน ยากกว่าหาเงินเสียอีก ในกรณี้นี้ จริงไหม

1 comment:

Unknown said...

สวัสดี

คุณกำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงินและต้องการความช่วยเหลือทางการเงินหรือไม่? คุณมีคะแนนเครดิตต่ำหรือไม่? คุณต้องการความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อชำระหนี้ของคุณและตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลของคุณหรือไม่? มองไม่เพิ่มเติม! ปรึกษากับ Union Capital Investment Organization และหาวิธีแก้ปัญหาทางการเงินขั้นสุดท้ายของคุณ เราให้กู้ยืมเงินในอัตราที่ต่ำมากเราสามารถช่วยให้คุณมีเงินกู้ ติดต่อเราทางอีเมลที่ trustloan88@gmail.com